การศึกษาไทยมีความท้าทายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ครู ที่มีภาระงานล้นมือ และนักเรียนที่ต้องการฟีดแบ็กแต่มักมาช้าหรือไม่ตรงจุด นี่คือที่มาของ RISA ผู้ช่วยอัจฉริยะขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งพัฒนาโดย SCB 10X ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และใช้พลังของ Typhoon โดยออกแบบมาเพื่อช่วยนักเรียนเตรียมสอบ PISA Reading Comprehension
RISA เป็นแชทบอทติวข้อสอบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปการเรียนรู้ของไทยในอนาคต
ความท้าทาย
จากการวิจัยและพูดคุยกับครูผู้สอน ทีม SCB 10X ได้พบกับ Pain Point ซ้ำ ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนไทย ได้แก่:
ภาระงานของครู: ครูใช้เวลาถึง 6–8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปกับการตรวจข้อสอบอัตนัยปลายเปิดและเขียนฟีดแบ็ก ส่งผลให้เหลือเวลาสำหรับการสอนจริงไม่ถึงครึ่ง
ความต้องการของนักเรียน: นักเรียนต้องการการสนับสนุนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การอธิบายสั้น ๆ ไปจนถึงคำอธิบายแบบทีละขั้น หากไม่ได้รับฟีดแบ็กอย่างทันท่วงที จะยิ่งทำให้ช่องว่างในการเรียนรู้กว้างขึ้นและเกิดความท้อแท้
RISA เอไอที่ช่วยทั้งครูและนักเรียนในเวลาเดียวกัน
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ SCB 10X จึงได้ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา พัฒนา "RISA" แอปพลิเคชันที่มาจากแนวคิด Reimagined Interactive Study Assistant เพื่อเป็นโครงการนำร่องที่มุ่งช่วยนักเรียนเตรียมสอบ PISA ในส่วนของการอ่านวิเคราะห์ (Reading Comprehension) โดยได้มีการเผยแพร่และใช้งานแล้วโดยนักเรียนราว 10,000 คน จาก 350+ โรงเรียนทั่วประเทศ
RISA ถูกออกแบบมาเป็นผู้ช่วย AI ซึ่งมีสองบทบาทหลัก ได้แก่
-
ผู้ช่วยตรวจข้อสอบ: สามารถตรวจข้อสอบอัตนัยโดยอ้างอิงเกณฑ์อย่างเป็นทางการ พร้อมให้เหตุผลประกอบที่สอดคล้องกับคำตอบของนักเรียนแต่ละคน
-
ผู้ช่วยอธิบายคำตอบ: อธิบายแนวคิดหรือเนื้อหาภาษาไทย โดยสามารถปรับวิธีอธิบายให้เหมาะสมกับระดับความเข้าใจ (ตั้งแต่เริ่มต้น ระดับกลาง ไปจนถึงขั้นสูง) และปรับโทนภาษา (สรุปสั้นๆ หรือ อธิบายอย่างละเอียดทีละขั้นตอน)
ที่สำคัญ RISA พัฒนามาเป็นแอปที่สามารถเข้าถึงง่ายๆ ได้ผ่าน LINE ทำให้นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและทำข้อสอบเมื่อไรก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

มี Typhoon เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง
หัวใจสำคัญของ RISA อยู่ที่โมเดล Typhoon ซึ่งทำให้คำตอบของ RISA ถูกต้องแม่นยำและสอดคล้องกับบริบททางภาษาและวัฒนธรรมไทย
RISA มีการใช้ Typhoon ทั้งโมเดลข้อความ และ OCR:
-
โมเดล Typhoon OCR: แปลงข้อสอบจากไฟล์ PDF ให้เป็นข้อมูลข้อความดิจิทัล
-
โมเดลข้อความ (มีการใช้งานทั้ง Typhoon 2 70B และ Typhoon 2.1 12B): โมเดลข้อความของ Typhoon ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับภาษาไทย มีความเข้าใจในภาษา พร้อม context window ขนาด 128k tokens ที่รองรับการตรวจข้อสอบแบบยาวได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมี safety classifier สำหรับกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือมีอคติ
สิ่งที่ทำให้ Typhoon แตกต่าง คือการถูกเทรนโดยมีภาษาไทยเป็นศูนย์กลาง นั่นทำให้ RISA สามารถอธิบายได้เหมือนครูไทยจริงๆ ใช้สำนวนและน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ และการอธิบายทีละขั้นตอนที่สอดคล้องกับผู้เรียน ซึ่งสำหรับโครงการด้านการศึกษาแล้ว ความถูกต้องทั้งในมิติภาษาและวัฒนธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
— ภาณุวัฒน์ ฉายะบรรจงเลิศ, Business Lead และ RISA AI Product Manager, SCB 10X
ผลลัพธ์และผลการทดสอบ
การทดสอบแบ่งเป็นสองเฟส ในระยะแรกกับนักเรียนประมาณ 100 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าสนใจ ก่อนต่อยอดไปสู่เฟสขยายผลสู่การใช้งานกับนักเรียนกว่า 10,000 คน ใน 350 โรงเรียน
โดยผลลัพธ์ของการวัดผลในด้านต่างๆ ได้แก่
-
พัฒนาการด้านผลการเรียนรู้: นักเรียน 55–56% มีคะแนนสอบดีขึ้น (จากการเปรียบเทียบ Pre-test และ Post-test ที่มีระดับความยากเท่ากัน)
-
ลดภาระงานครู: ประหยัดเวลาได้ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ด้วยการตรวจข้อสอบและการให้ฟีดแบ็กอัตโนมัติ
-
ความแม่นยำ: การตรวจข้อสอบมีความแม่นยำถึง 90% เมื่อเทียบกับครูผู้สอน
-
ความพึงพอใจด้านผลลัพธ์จากครู: ครู 98% ให้คะแนนประเมินพึงพอใจต่อคำอธิบายของ AI ทั้งด้านความชัดเจน ความครบถ้วน และความเป็นธรรมชาติ
-
การมีส่วนร่วมของนักเรียน: นักเรียนเข้ามาใช้งานเฉลี่ย 20.5 นาทีต่อครั้ง สูงกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์ม EdTech ทั่วไป (14–16 นาที)
-
ความปลอดภัย: พบอัตราการเกิดข้อผิดพลาดหรือปัญหาความปลอดภัยต่ำกว่า 1%
RISA เป็นโปรเจกต์ที่ได้พิสูจน์ว่า AI สามารถช่วยลดภาระงานของครู พร้อมกับยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนได้
ยกระดับความปลอดภัยด้วย Guardrails AI
อีกหนึ่งคุณลักษณะที่ทำให้ RISA โดดเด่นคือความมุ่งมั่นด้านความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย โดยได้ร่วมมือกับ Guardrails AI เพื่อนำแพลตฟอร์ม Snowglobe มาจำลองและทดสอบการโต้ตอบกับแชทบอทอย่างเข้มข้น
-
มีการสร้างบทสนทนาทดสอบแบบต่างๆ มากกว่า 400 แบบ โดยถูกสร้างและดำเนินการทดสอบได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียว (จากเดิมใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์หากทำด้วยมือ)
-
ครอบคลุมการจำลองบุคลิกนักเรียนแบบต่างๆ ถึง 50 บุคคลิก และครอบคลุมสถานการณ์ที่อ่อนไหว เช่น การใช้ผิดวัตถุประสงค์ คำถามนอกเรื่อง หรือการสนทนาเกี่ยวกับประเด็นการเมืองและวัฒนธรรม
-
ผลลัพธ์: ลดอัตราความผิดพลาดจาก 89% เหลือ 0% ทำให้สามารถเปิดใช้งานกับ นักเรียนกว่า 10,000 คนใน 350 โรงเรียน ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่พบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยเลย
ด้วยการยกระดับความปลอดภัยที่สเกลได้ง่ายนี้ ทำให้โปรเจกต์นี้มีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะยกระดับเพื่อให้รองรับได้ถึง 100,000 คน ในอนาคต
Snowglobe ทำให้เราสามารถรันกรณีทดสอบได้กว่า 400 แบบภายในวันเดียว จากเดิมที่ต้องใช้คน 2–3 คนทำงานเป็นสัปดาห์ ทำให้เราสามารถทดสอบแอปพลิเคชัน AI ของเราได้อย่างรอบด้าน ปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวัตถุประสงค์จนแทบเป็นศูนย์ พร้อมมั่นใจว่าแชทบอทการศึกษาของเราจะให้บริการแก่นักเรียนไทยหลายพันคนได้อย่างปลอดภัย
— ภาณุวัฒน์ ฉายะบรรจงเลิศ, Business Lead และ RISA AI Product Manager, SCB 10X
บทสรุป
-
AI ควรนำมาใช้เสริม ไม่ใช่แทนครู: การตรวจข้อสอบอัตโนมัติช่วยให้ครูมีเวลาไปโฟกัสกับงานสอนและการให้คำปรึกษาที่มีคุณค่ามากกว่า
-
ภาษาและวัฒนธรรมมีความสำคัญ: โมเดล Typhoon ที่พัฒนาขึ้นเพื่อภาษาไทยโดยเฉพาะ ทำให้คำอธิบายฟังดูเป็นธรรมชาติและตรงใจนักเรียน
-
ความปลอดภัยคือสิ่งที่ละเลยไม่ได้: Guardrails AI และตัวกรองความปลอดภัยของ Typhoon เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับครู ผู้ปกครอง และผู้กำหนดนโยบาย
โครงการนี้เป็นตัวอย่างของความร่วมมือข้ามภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น
-
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ให้ข้อมูลเรื่องกรอบการสอบ PISA และเครือข่ายครูผู้สอนที่เข้าร่วมโครงการ
-
SCB 10X พัฒนา RISA โดยใช้โมเดล Typhoon
-
Guardrails AI ยกระดับความปลอดภัยด้วยการจำลอง Snowglobe
แม้ว่า RISA จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนาต่อ นอกจากการเตรียมสอบ PISA แล้ว RISA ยังสามารถขยายไปสู่การเรียนการสอนวิชาและการสอบอื่น ๆ เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ขยายผลได้